Monday, May 16, 2011

Jimmy story

ตอนที่ 6  เสื้อแห่งความสุข


เสื้อถูกถักทอขึ้นมาจากเนื้อผ้าหลากหลายชนิด  ผ้าฝ้าย ผ้าใหม ใยสังเคราะห์ ฯลฯ   แล้วแต่ผู้ผลิตจะคิดค้นและนำวัตถุดิบชนิดใหนมาใช้
จากดอกฝ้ายปุยขาวฟูฟ่องดูนุ่มนวลน่าทาน(จนมีคนนำไปเลียนแบบทำเป็นขนม)ถูกถักทอจนเป็นเส้นด้ายจากธรรมชาติ
จากรังใหมจากตัวหนอนที่อาศัยกินใบหม่อนเลี้ยงชีวิตที่ต้องสิ้นชีวี  กลายมาเป็นแพรพรรณอันเลอค่าราคาแพง(น่าจะทำอนุสาวรีย์ให้กับเจ้าหนอนน้อยพวกนี้นะ)
และจากความฉลาดของมนุษย์ที่สามารถทำใยสังเคราะห์เลียนแบบเนื้อผ้าให้สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย  เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์(ที่ไม่มีวันสิ้นสุด)

เสื้อคือเครื่องนุ่งห่มเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องใช้สวมใส่
ใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากสายลมหนาว   ใส่เพื่อป้องกันแสงแดดที่แผดเผา  สวมใส่เพื่อปกปิดร่างกายป้องกันความอายและสายตาลวนลามจากผู้คนรอบข้าง
เสื้อมีหลากรูปหลายแบบแล้วแต่นักดีไซด์เนอร์จะออกแบบ  
ผู้บริโภคอย่างเราๆก็เลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับงานกับความจำเป็นหรือความชอบของแต่ละบุคคลและที่สำคัญให้เหมาะกับกาละเทสะ

เจ้านกน้อย จิมมี่ ก็มีเสื้อเหมือนกับคนอื่นเขาเช่นกัน
เสื้อกล้ามสองตัว ซึ่งถ้าดูตอนนี้มันอาจไม่เหลือสภาพของความเป็นเสื้อเท่าไหร่เพราะมันขาดรุ่งริ่งยานย้วย  มีรูพรุนไปทั้งตัว  ทั้งรูเล็กรูใหญ่เบียดเสียดแย่งพื้นที่บนเสื้อต่อตารางเซนติเมตรกันเลยทีเดียว
นั่นเป็นเพราะคมปาก(ที่ไม่มีฟัน)ของเจ้านกแก้วซันคอร์นัวร์น้อง จิมมี่ของเรานั่นเอง
เสื้อสองตัวนี้เรามอบให้เป็นสมบัติของน้องจิมมี่โดยเฉพาะ   นั่นหมายความว่าเมื่อใดที่มันร้องขอที่จะมาอยู่กับเราเกาะบนไหล่เรา ซบอยู่บนอกเรา อยู่ในเสื้อของเราเมื่อนั้นเสื้อสองตัวนี้จะได้ทำหน้าที่ทันที  
มันมีภาระหน้าที่ที่จะต้องผลัดเปลี่ยนกันทำงาน
มันทำงานเป็นกะ  เมื่อเสื้อตัวหนึ่งถูกใช้  อีกตัวจะได้รับการซักและปะพรมด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มและพับไว้รอการผลัดเปลี่ยนเวรยามอยู่ในตู้เสื้อผ้า
มันได้ทำหน้าที่อันหนักอึ้งนี้พอๆกัน   เสื้อสองตัวนี้จึงมีสภาพไม่ต่างกัน

เสื้อผ้าที่สภาพดีที่เราใช้ใส่สำหรับออกนอกบ้านออกไปทำงาน  ออกไปพบปะผู้คน  แน่นอนเสื้อผ้าเหล่านั้นต้องมีสภาพที่ดีแม้ว่าจะไม่ใช่เสื้อใหม่เสียทีเดียว   แต่ทว่าหลายต่อหลายตัวล้วนแล้วแต่ถูกเจ้าจิมมี่ลับคมปากมาแล้วทั้งนั้น  ตัวละรูสองรู 
ก่อนที่เสื้อผ้าที่ดูดีเข้ากับหน้าตาเหล่านั้นจะแปรสภาพไปมากกว่านี้  เราจึงลงมติเป็นเอกฉันท์(ผมกับเพื่อน)ที่จะมอบเสื้อสองตัวนี้ให้เป็น เสื้อแห่งความสุข ของน้องจิมมี่ลูกเรา

เวลาของครอบครัวคือเวลาที่เราได้อยู่พร้อมหน้ากัน  ซึ่งจะเป็นเวลาที่เจ้านกจิมมี่มีความสุขมากที่สุด 
เสื้อแห่งความสุข
เป็นเวที  สำหรับเต้น Tap
เป็นซอกมุมเอาไว้เล่นซ่อนหา
เป็นสนามหญ้าเวลาอยากเกลือกกลิ้ง
เป็นที่นอนอันอบอุ่นไว้ซุกนอนตอนง่วงจัด
และ...เป็นที่ระบายอารมณ์
โกรธ โมโห  ซึมเศร้า สนุกสนาน  ดีใจ  เสียใจ  พอใจ  ไม่พอใจ  ได้ดังใจหรือขัดใจ  ตื่นเต้นหรือตื่นกลัว 
จะอารมณ์ใหนเราไม่แน่ใจนัก
แต่...ทุกอารมณ์  ลงที่เสื้อสองตัวนี้
จงอยปากอันแหลมคมเหมือนกรรไกรที่ซื้อมาใหม่  จะเฉาะเจาะลงบนผืนเสื้อทีละรู  สองรู  สามรู  สี่รู  จนนับไม่ถ้วน  จน.......

...คงได้เวลาเปลี่ยน เสื้อแห่งความสุข ตัวใหม่แล้วล่ะ


Friday, March 25, 2011

Jimmy story

ตอนที่ 5 ช่างทำผม

        เราไม่แน่ใจว่าการกระทำเช่นนี้ของน้อง Jimmy จะหมายถึงอะไรกับการที่ปีนขึ้นไปบนหัวเราแล้วปฏิบัติการขยุ้มขยำ จิกๆ รูดๆ เขี่ยๆ ถูๆ ไถๆ บนกะบาลที่เหลือเส้นผมเส้นเล็กๆลีบบางอยู่เพียงน้อยนิด   
อาจจะเห็นเป็นหญ้าอันเขียวชะอุ่มน่าเกลือกกลิ้งเหตุผลนี้น่าดีใจ  รึว่าเห็นเป็นกิ่งไม้แข็งใบไม้เหี่ยวหรือฟางแห้งๆที่น่าจะเอามาทำรังได้  เหตุผลนี้คงต้องหันกลับมาทำการสังคายนาเส้นผมใหม่  เห็นจะดีเป็นแน่แท้     
ว่าแต่เราจะใช้แชมพูยี่ห้ออะไรดีล่ะเส้นผมถึงจะได้ดูดีมีน้ำหนักเหมือนผมนายแบบที่โฆษณาทางทีวี  จะได้เปลี่ยนความคิดของเจ้า Jimmy ได้ 
หรืออีกประการหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดนั่นคือ  มันคงคิดว่านี่คือเส้นขนของเพื่อนนกด้วยกัน  เพราะจากการที่เราเลี้ยงมันมาได้ระยะหนึ่งเราพอจะรู้พฤติกรรมของมันบ้าง
          ผมเคยตั้งความหวังไว้กับร้านตัดผมหลายๆแห่ง...เกือบทุกแห่ง...และทุกๆแห่ง
ว่า...ในการตัดผมแต่ละครั้งผมของผมจะต้องดูดีมีสไตร์รับกับใบหน้าอันหล่อเหลา(บ้าง)ของผม  
แต่ทว่าในทุกๆครั้งที่ช่างผมบรรจงลงมือตัดจัดการกับเส้นผมบนหัวที่ละเล็กที่ละน้อยจากกกหูถึงกลางหัวจากต้นคอถึงท้ายทอยจากหัวด้านหน้าจรดหัวด้านหลัง  จากปัดตาเลี่ยนเปลี่ยนเป็นกรรไกรจบสุดท้ายที่ใบมีดโกนจนแล้วเสร็จ   มักจะ ม่ายล่ายหล่างจายอั๊วเลย 
โกนหนวดด้วยมั้ยน้อง ช่างผมถาม ไม่ครับ ผมตอบโดยไม่ส่ายหน้าเพราะเกรงว่าใบมีดโกนในมือของช่างผมที่กำลังขูดเส้นผมตรงท้ายทอยจะจิ้มให้เกิดบาดแผลเอาได้  
ผมไม่ชอบให้ช่างผมโกนขนโกนหนวดบนใบหน้า  และผมคิดว่าสิวเจ้าถิ่นก็ไม่ค่อยชอบเช่นกัน  มันมักจะขึ้นมาประท้วงทุกครั้งที่ผมใจอ่อน   
ปิดท้ายการบริการด้วยการนวดคลายเส้นเล็กๆน้อยๆพอให้ร่างกายส่วนบนที่นั่งหลังขดหลังแข็งนานนับชั่วโมงได้ผ่อนคลายกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าไม่กระปวกกระเปรี้ยเพลียแขนจะได้ควักตังค์ออกมาจ่ายค่าบริการได้โดยง่าย  
ผมไม่ค่อยมีร้านตัดผมเจ้าประจำเท่าไหร่เพราะแต่ละบาเบอร์ตัดออกมาแล้วไม่ค่อยถูกใจซักราย  บางแห่งก็นำเสนอทรงใหม่ๆโดยอาสาที่จะออกแบบให้ฟรีไมคิดเงินเพิ่ม(อันนี้ชอบ)ก็เลยตามใจท่านแล้วแต่ท่านเห็นสมควร  เรียกว่าลองเชื่อดูเผื่อดี(ใจง่ายนะนี่)เพราะดูจากหน้าตาและอายุของช่างแล้วท่านคงผ่านประสบการณ์มาเยอะและถ้าดีจะได้มีช่างประจำกับเขาบ้าง
 ...เหอะ..ๆ..ๆ..ๆ(เสียงหัวเราะจากเพื่อนฝูง)เมื่อเห็นทรงผมใหม่ที่เราพึ่งได้มา  นั่นปะรัยคิดเหมือนผมตอนเดินออกมาจากร้านตัดผมเลย  
คงเป็นเพราะทรงผมไม่รับกับใบหน้า  เอ๊ะ! หรือว่าใบหน้าไม่รับกับทรงผม  อ๊ะ! รึว่าเราควรจะปรับปรุงหน้าตาเราให้เหมาะกับทรงผมของท่านๆทั้งหลายเหล่านั้นดี
ครุ่นคิดและเป็นอยู่อย่างนี้มานาน  เอาเป็นว่าถ้ามันเรื่องมากหรือมากเรื่องนัก Skin head  มันซะเลยดีกว่า   
แต่ทุกครั้งที่เข้าร้านตัดผมชายไม่ว่าจะบาเบอร์ไหนๆ  สิ่งหนึ่งที่ทุกร้านให้เหมือนๆกันถ้าไม่นับรวมความง่วงจนเคลิ้มหลับเป็นระยะๆ  นั่นคือความสุขความเพลิดเพลิน  เพลินเวลาที่มีคนมาจับมาลูบหัวเรา  ทำให้ภาพเก่าๆสมัยเด็กๆผุดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง 
ผู้ไหญ่สมัยนั้นมักจะลูบหัวเด็กด้วยความเอ็นดูแล้วสอบถามสารทุกข์สุขดิบถามหารากเหง้าว่าเป็นลูกเต้าเหล่าไคร  สำหรับเด็กอย่างผมแล้วมันอบอุ่น 
อบอุ่นกับความห่วงใยที่สื่อผ่านอุ้งมือไหญ่ๆโอบพอดีกับหัวเด็กน้อยตัวเล็กๆอย่างเรา
และแล้วผมก็พบกับร้านบารเบอร์ที่ถูกใจผมเป็นที่สุด  ช่างผมไม่ได้ดีเด่นอะไรมากมายไม่ได้เก่งมาจากใหนและไม่ได้ร่ำเรียนมาโดยตรง   ออกจะเอาแต่ใจเสียด้วยซ้ำ  แต่ช่างคนนี้เอาใจเก่ง น่ารักน่าเอ็นดู แก้มแดงๆ ตัวเล็กๆสีเหลืองส้ม หางเขียวๆ  ...น้อง Jimmy ของเรานั่นเอง.


Sunday, February 13, 2011

cyclingman: Calorie of Food

cyclingman: Calorie of Food: "มาดูแคลอรี่ของอาหารกันเถอะ วิธีการลดน้ำหนักให้ได้ผลวิธีหนึ่งคือการควบคุมอาหาร(ไม่ใช่อดอาหาร) บวกกับการออกกำลังกาย โดยการรับเข้า(คือการกิน)จ..."